สำนักงานประกันสังคมปรับรูปแบบวิธีการจ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยดึงเงินเหมาจ่ายที่จะให้โรงพยาบาลบางส่วนมาไว้กองกลาง เป็นเงิน 4,460 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้กับโรงพยาบาล ที่ให้การรักษาหรือผู้ประกันตน เพื่อให้ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายสูงมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลได้สะดวก
ในอดีตที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง หรือมีค่าใช้จ่ายสูง ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมได้อย่างทั่วถึง จะเห็นได้จากสำนักงานประกันสังคมได้รับข้อร้องเรียนจากผู้ประกันตนกรณีที่โรงพยาบาลหลีกเลี่ยงการรักษาหรือส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษาในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า หรือกรณีที่ผู้ประกันตนต้องการไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ส่งต่อ ซึ่งในแต่ละปีมีข้อร้องเรียนดังกล่าวประมาณ 40% ของข้อร้องเรียนทั้งหมด
สำนักงานประกันสังคมจึงได้ปรับรูปแบบการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลโดยกันเงินเหมาจ่ายที่จ่ายให้กับโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ มาไว้เป็นกองกลาง 4,460 ล้านบาท/ปี เพื่อจ่ายให้กับโรงพยาบาลที่ให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายสูง
อีกทั้งกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือประสบอุบัติเหตุ ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อความปลอดภัย กรณีที่เจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง ผู้ประกันตนก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามหลักเกณฑ์และอัตรากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สำหรับกรณีที่เจ็บป่วยรุนแรง สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่ารักษาให้กับโรงพยาบาลที่ให้การรักษา โดยผู้ประกันตนไม่จำเป็นต้องย้ายกลับไปรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและทันท่วงทีเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต พิการ หรือทุพพลภาพ จากโรคที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วน
สำนักงานประกันสังคมได้ปรับวิธีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงการรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่เหมาะสมได้อย่างทั่วถึง เป็นการแก้ปัญหากรณีโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ หลีกเลี่ยงการรักษาหรือส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษาต่อในโรงพยาบาลระดับสูง หรือกรณีที่ผู้ประกันตนเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง และไม่มั่นใจการให้บริการของโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ผู้ประกันตนสามารถตัดสินใจเลือกที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระดับสูงอื่น ในระบบประกันสังคม โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย และผู้ประกันตนไม่ต้องกังวลว่าโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้หรือไม่ เนื่องจากสำนักงานประกันสังคมจะเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาลดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาลที่ให้การรักษาพยาบาลโดยตรง
หากโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมทั้งรัฐและเอกชน ที่มีศักยภาพในการให้บริการการรักษาโรคที่ร้ายแรง เช่น สถาบันโรคทรวงอก สถาบันประสาท โรงพยาบาลเอกชนอื่นๆ สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นโรงพยาบาลที่ให้การรักษาพยาบาลเฉพาะโรคให้แก่ผู้ประกันตนได้ เช่น โรคหัวใจ โรคทางสมองเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ประกันตนในการเข้ารับ การรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายสูงได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
แหล่งที่มา เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น