บรรยากาศเย็นๆ และหมอกจางๆ พร้อมอาหารเช้าอย่าง “โรตีแกง” ที่กรอบนอกนุ่มในใน จ.ระนอง เป็นอาหารเช้าขึ้นชื่อของคนที่นี่ เพื่อแวะเติมพลังก่อนจะออกเดินทางแวะชมจวนเจ้าเมืองเก่า ต้นตระกูล ณ ระนอง ผู้ทำให้ จ.ระนอง มีเศรษฐกิจและทำเงินเข้าจังหวัดด้วยแร่ดีบุกจนโด่งดัง จวนเก่าเจ้าเมืองระนอง อดีตเป็นสถานที่ทำงานและที่พักของ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี หรือ ท่านคอซูเจียง เจ้าเมืองคนแรกของ จ.ระนอง แห่งนี้ ผู้ที่ได้รับการยกย่องจากชาวเมืองระนองว่าเป็นผู้สร้างเมืองระนอง นอกจากนั้นยังเป็นที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของต้นตระกูล ณ ระนอง ไว้อีกด้วย
จากนั้นต่อด้วยการเดินทางไปสู่สวนรุกขชาติ บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน ตรงกับคำขวัญประจำ จ.ระนอง เพื่อแช่น้ำพุร้อนเพื่อสุขภาพ ให้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าของร่างกาย และช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 50–65 องศาเซลเซียส มีอยู่ 3 บ่อด้วยกัน บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่สุดของเมืองระนองเลยก็ว่าได้ เพราะน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อก็อยู่ที่จังหวัดแห่งนี้นี่เอง
หนึ่งในเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง “ภูเก็ต” ยังคงเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หากแต่หลายคนยังคงมองว่าภูเก็ตจะมีดีแค่ทะเลละก็ วันนี้อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดแบบนั้นทันที
ภูเก็ต ยังจัดว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองอันยาวนานอีกเมืองหนึ่งของไทย โดยหนึ่งในรอยอดีตอันรุ่งเรืองของภูเก็ตก็คือตึกเก่าแบบชิโนโปรตุกีส ที่จะพบเจอเมื่อเข้าสู่เขตเทศบาลเมืองภูเก็ต เป็นสิ่งแรกที่ผู้ไปเยือนจะรู้สึกสะดุดตากับตึกเก่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าเเก่ของเมือง อาคารสไตล์ “ชิโนโปรตุกีส” ผสมผสานเอาความเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน จนเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเมืองภูเก็ต ตึกเก่าเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วตัวเมืองภูเก็ตที่เรียงรายอย่างต่อเนื่อง
ทางเทศบาลเมืองภูเก็ตเห็นถึงความสำคัญของสถาปัตยกรรมเหล่านี้ โดยได้ทำการอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสนี้ไว้ และจัดให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการท่องเที่ยว จัดให้มีเส้นทางเดินชมเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ของภูเก็ต และสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่สวยงาม พร้อมๆ กับได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การศึกษายิ่ง หากแต่เกาะแห่งนี้ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ในความเป็นตัวของตัวเองหลายอย่างที่รอให้ใครๆ ต้องมนต์เสน่ห์จนอยากจะกลับมาเป็นครั้งที่สองแน่นอน
พังงา จังหวัดที่ใกล้ๆ ติดกับภูเก็ต ก็เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาลต่อปีไม่แพ้กัน พังงาเป็นแหล่งแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้นานาชนิด เวลาเช้าตรู่เราสามารถล่องเรือไปอ่าวพังงาเพื่อชมทัศนียภาพของเกาะรูปทรงแปลกตาที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา เช่น เขาพิงกัน เขาตะปู เขาหมาจู เกาะรูปหัวใจ และอีกหลายเกาะที่มีรูปทรงแปลกตาแล้วแต่จินตนาการกันเอง นอกจากนั้นยังต้องลองไปสัมผัสหมู่บ้านกลางทะเลที่สวยที่สุดในประเทศไทยที่ เกาะปันหยี หมู่บ้านที่ทุกคนอาศัยอยู่บนพื้นน้ำ แต่ผู้คนกลับใช้ชีวิตเสมือนว่าตนอยู่บนดินอย่างมีความสุข ผู้คนที่นี่ยิ้มแย้มและเป็นกันเองมากกับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน
หากแต่ความอันซีนของพังงาไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ เพราะยังมี ถ้ำพุงช้าง ที่สุดของความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น เป็นสัญลักษณ์ของชาวพังงาที่ภูมิใจเสนอ ถ้าพุงช้างเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ภูเขาช้างที่มีความยาว 1,200 เมตร จากปากถ้ำเราต้องล่องเรือแคนูไป แล้วต่อด้วยแพไม้ไผ่ และเดินฝ่าน้ำ ระหว่างทางเราจะได้พบกับหินงอกหินย้อยที่ส่งแสงระยิบระยับในความมืดให้ผู้ที่พบเห็นประหลาดใจแล้ว ยังมีข้อห้ามสำคัญสำหรับผู้ที่จะไปเยือนคือ ห้ามยื่นมือไปแตะต้องสัมผัสโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้หินเหล่านั้นหยุดการเจริญเติบโตไปอีกนาน นับว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหลังจากท่องเที่ยวในบรรดาเกาะต่างๆ ของพังงาในประเทศไทยยังมีสถานที่พักผ่อนแบบอันซีนอีกมากมายที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสเอนกายพักผ่อนอย่างอิ่มเอม หนีจากความเหนื่อยล้ามาชาร์จพลังให้เต็ม เพื่อพร้อมรับวันใหม่อย่างมีกำลังใจกันต่อไป
แหล่งที่มา เว็บไซต์โพสทูเดย์ โดย..ญาณิกา 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 08:23 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น