วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทนรวยไม่ได้ ก็ต้องทนจนต่อไป

"ถ้าทนรวยไม่ได้ ก็ต้องทนจนต่อไป"

มันแปลกมั้ย
ถ้าจะบอกว่าเราหลายคนล้วนเป็นคนที่ "ทนรวย" ไม่ได้

บางคนคงสงสัย
"มีด้วยรึ...ทนรวยไม่ได้? ชั้นจนจะแย่อยู่แล้ว"
แค่วันที่เรารับเงินเดือนเดือนแรก
เราก็รวยกว่าวันที่เรายังเรียนอยู่แล้ว

และยิ่งทำงานนานๆ เข้า รายได้เราก็เพิ่มขึ้น
เพราะฉะนั้นเรากำลังรวยขึ้นเรื่อยๆ
เพียงแต่เราแค่ "ทนรวยไม่ได้" เท่านั้นเอง
เราถึงยังไม่รวยซะที

เมื่อรายได้เพิ่ม สิ่งขยับตามมาและแซงหน้าเสมอก็คือ "รายจ่าย"
พอรายได้เพิ่ม เราจะเริ่มกินข้าวข้างทางไม่ได้
มันต้องกินในห้างสิ คนรวยอย่างเรา

กาแฟลุงหน้าปากซอยก็ดูเหมือนจะไม่อร่อยขึ้นมาทันที
มันต้องแก้วละร้อยกว่าบาทสิ ถึงจะเหมาะกับคนอย่างเรา
เราเริ่ม "ทนรวยไม่ได้"

อยากจะพูดถึงหนึ่งในการ "ทนรวยไม่ได้" ที่อันตรายที่สุด
มันคือหลุมพรางที่หลายคนตกลงไป
เวลาที่เรามีเงินเยอะขึ้น รายได้เยอะขึ้น
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำก็คือ "ซื้อรถใหม่"

พูดถึงเรื่อง "ค่าเสื่อมราคา" ของรถยนต์
ไม่ว่าจะเป็นรถที่ราคาถูกหรือแพง
ราคา "รถ" จะ "ลด" ลง 1% ทุกเดือนโดยประมาณ
เช่น ถ้ารถราคา 1 ล้านบาท
ทุกเดือน รถคันนี้จะลดค่าลง 1% ของ 1 ล้านบาท
ซึ่งก็คือ 1 หมื่นบาท

แปลว่าโดยประมาณ 4-5 ปี
ราคารถคันนั้นจะลดเหลือแค่ครึ่งเดียว
 
"คนที่จะซื้อรถ จึงต้องถามตัวเองว่าจะทนทำใจได้มั้ย
กับราคารถที่ลดลงทุกเดือน เดือนละ 1%
มันคือเงินที่จะหายไปกับอากาศเลย"

โอโห! ทึ่งมาก เพราะไม่เคยคิดในมุมนี้เลย
ถ้าเราซื้อรถคันละล้าน
ก็แปลว่าเราโยนเงินทิ้งไปเดือนละหมื่น
มันเห็นภาพชัดเจนมากว่า
เงินหมื่นก้อนนั้นจะเปลี่ยนเป็นค่าเสื่อมราคา
หรือเราจะเอามันไปลงทุนทำอะไรดี?

"ซื้อรถ" ไม่ผิดหรอก
ถ้ามันจำเป็นต้องใช้ และเรามีเงินจ่ายสบายๆ
แต่ถ้าแค่อยากมีไว้แค่อวดคนอื่น แล้วเราต้องมาแบก
อันนั้นเข้าข่าย "ทนรวยไม่ได้"

ถ้าทนรวยได้ เราจะรวยอย่างยั่งยืน
แต่ถ้าทนรวยไม่ได้ เราก็ต้องทนจนต่อไป
เรื่องมันก็ง่ายๆ แค่นี้แหละ

แหล่งที่มา   Facebook : Boy's Thought

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...