วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

โคลนนิ่ง โคขาวลำพูนตัวที่ 2 ของไทย



นักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูนเป็นตัวที่ 2 ของประเทศ อนุรักษ์โคพันธุ์ดีที่ใช้ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ตั้งชื่อ “เศวต”

วันนี้ (26 เม.ย. 2555) ที่ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อนและเซลล์ต้นกำเนิด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีการแถลงผลงานวิจัยการโคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูน ตัวที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งชื่อว่า “เศวต” ที่โคลนนิ่งจากเซลล์ใบหูของโคพ่อพันธุ์ เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์โคขาวลำพูน เป็นพระโคในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล


ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมทส. เปิดเผยว่า ผลงานการโคลนนิ่งของศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อนและเซลล์ต้นกำเนิด มทส. ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา สามารถผลิตลูกโคโคลนนิ่ง ทั้งโคนมพันธุ์ดี โคบราห์มันแดงเป็นโคเนื้อพันธุ์ดี และโคขาวลำพูน เป็นโคมงคลที่ใช้ในราชพิธีต่าง ๆ รวมแล้วถึง 29 ตัว ในจำนวนดังกล่าวมีโคบราห์มันแดงเพศเมียชื่อ“เต้าฮวย” และโคนมเพศเมียพันธุ์ลูกผสมโฮลสไตน์-ฟรีเชียน ชื่อว่า“แปะก๊วย” มทส.ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2551 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา รับไว้ดูแลและศึกษาวิจัยเพื่อเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรด้วย



 สำหรับโคขาวลำพูนโคลนนิ่งตัวที่ 2 ของไทยตัวนี้ ตั้งชื่อว่า“เศวต” แปลว่า“สีขาว”  มีลักษณะตรงตามสายพันธุ์ 100% มีลักษณะโดดเด่น คือ ตัวใหญ่ ลำตัวสีขาวตลอด พู่หางขาว หนังสีชมพูส้ม จมูกสีชมพูส้ม เนื้อเขาเนื้อกีบสีน้ำตาลส้ม จากลักษณะเด่นดังกล่าวจึงถูกคัดเลือกให้เป็นพระโคในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ นิยมเลี้ยงมากทางภาคเหนือตอนบน ปัจจุบันเหลือโคขาวลำพูนพันธุ์แท้ไม่มากนัก หากไม่มีการปรับปรุงพันธุ์และอนุรักษ์ไว้อาจจะสูญพันธุ์ได้ในอนาคต การโคลนนิ่งจึงเป็นวิธีช่วยอนุรักษ์สายพันธุ์โคขาวลำพูนให้คงอยู่ต่อไป


รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย หัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อนและเซลล์ต้นกำเนิด สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส. กล่าวด้วยว่า ลูกโคขาวลำพูนโคลนนิ่งตัวนี้ เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา น้ำหนักแรกเกิด 35 กก.มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ถือเป็นความสำเร็จการโคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูนที่ใช้เซลล์ใบหูเป็นเซลล์ต้นแบบตัวที่ 2 ของประเทศ ต่อจาก “ขาวมงคล” โคขาวลำพูนโคลนนิ่งตัวแรกที่เกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค.  2550
 

การโคลนนิ่งครั้งนี้คณะผู้วิจัยได้นำเซลล์ใบหูของพ่อโคขาวลำพูน ชื่อ “ดอยอินทนนท์” ของฟาร์มช่างรุ่ง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับรางวัลแกรนด์แชมป์ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาทำเป็นเซลล์ต้นแบบผลิตตัวอ่อนโคลนนิ่งเช่นเดียวกับขาวมงคล แต่ได้มีการปรับปรุงกระบวนการโคลนนิ่งเพื่อช่วยให้การรีโปรแกรมเซลล์ใบหูดีขึ้น โดยใช้สารเคมีชื่อริเวอร์ซีน (Riversine) เลี้ยงตัวอ่อนระยะแรกเป็นเวลานาน 6 ชั่วโมง แล้วเลี้ยงตัวอ่อนในหลอดทดลองอีก 7 วัน ก่อนนำไปย้ายฝากให้โคนมตัวรับ 4 ตัว มีการตั้งท้อง 3 ตัว แต่แท้งไป 2 ตัว เหลือเพียงตัวเดียวครบกำหนดคลอดและได้ผ่าคลอดออกมาสำเร็จ คิดเป็นความสำเร็จได้ลูกเกิด 25% จากเดิมที่เคยสำเร็จได้ลูกโคโคลนนิ่งเกิดใหม่เพียง 11%
 


“ปัจจุบันเหลือโคขาวลำพูนพันธุ์แท้ไม่เกิน 5,000 ตัว ในจำนวนนี้มีลักษณะถูกต้องตามตำราว่าด้วยโคขาวลำพูนไม่ถึง 1,000 ตัว ทำให้น่าเป็นห่วงว่าในอนาคตจะเหลือโคขาวลำพูนที่มีพันธุ์ดีไม่มาก การพัฒนากระบวนการโคลนนิ่งโคจะช่วยทำให้การผลิตโคโคลนนิ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นำไปสู่การผลิตโคขาวลำพูนลักษณะและพันธุ์ดีได้มากขึ้น” รศ.ดร.รังสรรค์ กล่าว และว่า ขณะนี้ทีมงานของศูนย์วิจัยฯกำลังปรับปรุงการรีโปรแกรมเซลล์ใบหูกระทิง เพื่อผลิตกระทิงโคลนนิ่งให้เกิดมาแล้วมีชีวิตรอด หลังจากเมื่อ 5 ปีก่อนได้ผลิตกระทิงโคลนนิ่งเพศผู้เกิดมาเป็นรายที่ 2 ของโลก แต่มีชีวิตหลังคลอดเพียง 12 ชั่วโมง หากการปรับปรุงขบวนการโคลนนิ่งกระทิงสำเร็จ จะเป็นการอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนกระทิงให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันกระทิงถูกล่ามากขึ้นและมีความเสี่ยงที่จะลดจำนวนลงทุกวัน ซึ่งโครงการโคลนนิ่งกระทิงนี้ได้ร่วมมือกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในการเก็บเซลล์ผิวหนังกระทิงเพื่อนำมาเป็นเซลล์ต้นแบบ และกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยได้รับทุนสนับสนุนจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ และทุนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี คาดว่าน่าจะประสบผลสำเร็จของการโคลนนิ่งกระทิงในเร็วๆ นี้

แหล่งที่มา    เว็บไซต์เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 เวลา 14:19 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...