ยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อน อารมณ์เจ้าตูบมักแปรปรวนผิดปกติ หากโชคร้ายเจ้าตูบมี "เชื้อพิษสุนัขบ้า" จากเจ้าตูบแสนน่ารัก อาจแปลงร่างเป็นมัจจุราชนำพามาซึ่งความตายได้
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ความรู้ว่า โรคพิษสุนัขบ้าเกิดได้ทั้งสุนัขและแมว ที่สำคัญ เกิดได้ทุกฤดูไม่เฉพาะฤดูร้อน หากเจอสุนัขแปลกหน้า อันดับแรกอย่าเข้าใกล้จะดีกว่า ถ้ามีอาการน่าสงสัย เช่น น้ำลายไหล ตาแดง ไม่ควรเข้าใกล้เด็ดขาด
ใครที่มีสัตว์เลี้ยงหากพาออกนอกบ้าน ควรสำรวจดูว่าสุนัขที่เลี้ยงได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วหรือยัง ถ้ายังควรฉีดทันที รวมทั้งใส่ปลอกคอพร้อมกับเขียนชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ของเจ้าของไว้ สำหรับกรณีสุนัขพลัดหลงหรือหลุดไปก่อเหตุ
อาการของโรคพิษสุนัขบ้า หมอระบุว่า เมื่อถูกกัดอาการของโรคมักเป็นการอักเสบของสมองและเยื่อสมอง ระยะ 2-3 วันแรก ผู้ป่วยจะปวดเมื่อยตามเนื้อตัว มีไข้ คัน หรือปวดบริเวณรอยกัด
ต่อมาจะหงุดหงิด กระสับกระส่าย ไม่ชอบแสง ลม มีน้ำลายไหล และจะเริ่มเพ้อคลั่ง สลับกับอาการสงบ ชัก ผู้ป่วยบางราย อาจเป็นอัมพาตและอาจเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม โรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่สุด หากเจ้าของสุนัขหมั่นพาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนเป็นประจำ รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำเมื่อเจอสุนัขแปลกหน้า คือ "5ย."
- อย่าแหย่
- อย่าเหยียบ
- อย่าแยก
- อย่าหยิบ และ
- อย่ายุ่ง
แมว-หมาน่ารัก อย่าให้กัด-ข่วน
คุณหมอแนะนำว่า หากถูกสุนัขแมวกัด ข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีบาดแผล ให้รีบล้างน้ำสะอาด แล้วรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งสืบหาเจ้าของและสอบประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
นอกจากนั้น ควรติดตามดูอาการสุนัข 10 วัน ถ้าสุนัขตายให้สงสัยว่า จะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า หากถูกสุนัขจรจัดกัด ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนจะดีกว่า
แหล่งที่มา นสพ. M2F วันศุกร์ที่ 27 เม.ย. 55 (133)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น