วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

เวลาที่มีค่ามากที่สุดคือเวลาที่น้อยที่สุด

คำว่า “เวลา” ไม่สามารถแบ่งได้ว่าเวลาไหนมีค่ากว่าเวลาไหน เวลาเช้ามีค่ากว่า หรือเวลาบ่ายมีค่ามากกว่าเวลาเย็น ช่วงเวลาไหนของชีวิตมีค่ามากที่สุด เราคงไม่สามารถตัดสินได้หรอก ทุกเสี้ยวนาทีมีค่าเหมือนกับหมด เพียงแต่เวลาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ณ ขณะนั้น เป็นเวลาที่ชีวิตเรากำลังทำอะไร ถ้าเรากำลังตกอยู่ในอ้อมแขนของคนร้ายที่ติดยาบ้า และมีมีดจ่อคอหอยเราอยู่นั้น ทุกวินาทีเราคงไม่ปล่อยให้มันผ่านเลยไป เหมือนเวลาที่เรากำลังนั่งคุยกับเพื่อนในที่ทำงาน หรือเวลาที่เราปล่อยผ่านเลยไปเฉยๆ โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อชีวิตของเรา เราคงจะต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำอย่างไรเราจึงจะหลุดรอดจากคมมีดของคนร้ายได้

“ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” น่าจะยังพอนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารเวลาของคนได้อยู่ คนส่วนใหญ่ยังปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปตาม “กาลเวลา” ไม่ค่อยกระตือรือร้นอะไรมากมาย
  • คนบางคนเริ่มเห็นความสำคัญของเวลาเข้าทำงานก็ต่อเมื่อได้รับใบเตือน หรือถูกตัดโบนัสไปเรียบร้อยแล้ว
  • คนบางคนเริ่มเห็นความสำคัญของเวลาออกกำลังกายก็ต่อเมื่อนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแล้ว
  • คนบางคนเริ่มเห็นความสำคัญของเวลาเมื่อตกเที่ยวบิน
  • คนอีกหลายคนที่มาเห็นความสำคัญของเวลาเมื่อ “สายไปเสียแล้ว”
สิ่งที่แปลกไปกว่านั้นคือ คนจะเห็นความสำคัญของเวลาเฉพาะเรื่องที่เคยมีบทเรียนมาแล้วเท่านั้น เช่น ถ้าถูกใบเตือนเรื่องมาทำงานสาย ก็จะรู้สึกว่าเวลาเข้างานเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาระยะหนึ่ง แต่เวลาอย่างอื่น เช่น เวลานัดเพื่อนก็ยังไปสายอยู่เหมือนเดิม เพราะคนที่ไม่เห็นความสำคัญของเวลานั้น มักจะไม่เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของเวลา แต่ที่เห็นความสำคัญของเวลาเพราะผลประโยชน์หรือการลงโทษบางอย่างที่เป็นสิ่งเร้าภายนอกมากกว่า เช่น เบี้ยขยัน หรือการตัดโบนัส การได้รับใบเตือน ฯลฯ

ถ้าเราลองไปถามใครก็ตามว่า ในชีวิตนี้เวลาที่มีค่ามากที่สุดของเราคือเวลาไหน เชื่อมั่นว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ตอบว่าเวลาที่มีค่ามากที่สุดนั้นมีหน่วยเป็นเพียงนาทีหรือวินาที เช่น
  • วินาทีที่รอดกระสุนปืนมาอย่างหวุดหวิด
  • เสี้ยววินาทีที่ตึกถล่ม
  • นาทีสุดท้ายที่คนที่เรารักต้องจากเราไป
  • นาทีที่หัวหน้าบอกเลิกจ้างเรา
  • วินาที่ที่นักโทษได้ยินคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิต
  • นาทีที่เราได้รับการประกาศชื่อให้เป็นนางงามจักรวาล
  • นาทีที่เราได้รับการประกาศชื่อว่าเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลจากการทายผลฟุตบอลโลก ฯลฯ
น้อยคนนักที่จะตอบเราว่าเวลาที่สำคัญที่สุดของเขาคือ วันนั้น สัปดาห์นั้น เดือนนั้น หรือปีนั้น

เราจะเห็นว่า ถึงแม้ว่าชีวิตเรามีเวลามากมายเป็นหมื่นๆ วัน แต่เวลาที่มีค่ามากที่สุดของเรามีเพียงไม่กี่วินาที หรือไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะเราไม่ได้ทำให้เวลาในชีวิตของเราที่ผ่านเข้ามาและผ่านออกไปนั้นมีมูลค่าเพิ่มอะไรขึ้นมาเลย มันผ่านเข้ามาด้วยมูลค่าเท่าไหร่ เมื่อผ่านตัวเราไปแล้วมูลค่าของเวลาไม่เพิ่มขึ้น เผลอๆ เวลาของบางคนมีมูลค่าลดลงเสียด้วยซ้ำไป

คนเรามักจะคิดว่าเรามีเวลาเหลือเฟือ จึงมักจะใช้เวลาอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งไม่แตกต่างอะไรกับการใช้จ่ายเงิน ถ้าเรามีเงินน้อย เงินทุกบาททุกสตางค์มันมีค่ากับเรามาก บางทีเงินเพียงหนึ่งบาทของเราอาจจะมีค่ามากกว่าเงินหนึ่งล้านบาทของมหาเศรษฐีที่มีเงินเป็นหมื่นๆ ล้านก็ได้ เช่นเดียวกันกับเวลาหนึ่งนาทีที่คนกำลังจะจมน้ำตาย มันมีค่ามากกว่าเวลาหนึ่งชั่วโมงของคนที่กำลังเดินชอบปิ้งในห้างสรรพสินค้าอย่างแน่นอน

แหล่งที่มา   เว็บไซต์สยามรัฐดอทคอม 26-07-2011 09:39:21

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...