วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

กรมธนารักษ์เก็บเหรียญ 2 บาทสีเงิน

กรมธนารักษ์ดูดเหรียญ 2 บาทสีเงินเก็บเข้าคลัง เหลือสีทอง อย่างเดียวกันประชาชนสับสน

นางทัศนีย์ พงศ์ละไม รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า จากภาวะค่าครองชีพแพง มาจากต้นทุนราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทั้งรถเมล์ ขสมก. เรือ และสินค้าประเภทต่างๆ เมื่อทำการปรับราคาสินค้าอาจคิดเป็นเศษสตางค์ ทั้ง 25 และ 50 สตางค์ ดังนั้น กรมธนารักษ์ซึ่งรับผิดชอบในการผลิตเหรียญกษาปณ์ และบริหารจัดการส่งเหรียญออกสู่ระบบ ต้องคอยดูแลเหรียญกษาปณ์ให้เพียงพอ ไม่ให้เกิดปัญหาขาดตลาด เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการให้เกิดการหมุนเวียนของเงินสะดวกคล่องตัวมากขึ้น เพราะมีส่วนทำให้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนคล่องตัว

ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์ 25 และ 50 สตางค์ รองรับสำหรับการใช้ในระบบประมาณ 10-12 ล้านเหรียญ สามารถใช้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2556 แต่การใช้เหรียญเศษสตางค์เริ่มจำกัดลงในสินค้าหลายประเภท เพราะการปรับเพิ่มราคา เช่น ข้าวแกง หรือสินค้าประเภทอื่น มักจะปรับเพิ่มครั้งละ 1-5 บาท โดยจะไม่คำนวณปรับเพิ่มเป็นเศษสตางค์เหมือนกับค่าโดยสาร ทำให้เริ่มบริหารจัดการเหรียญสตางค์ง่ายขึ้น ขณะนี้มีแต่ค่าโดยสารที่ต้องใช้เงินทอนเป็นเศษสตางค์ จึงต้องดูแลเพื่อไม่ให้เหรียญขาดตลาด

สำหรับการผลิตเหรียญ 2 บาทออกใช้ในระบบนั้น ยอมรับการมีเหรียญ 2 บาท 2 ประเภท คือ เหรียญสีเงินและสีทอง ดังนั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน จึงค่อยทยอยดูดเหรียญ 2 บาทสีเงินคืนสู่คลังให้หมด เพื่อต้องการให้มีเหรียญ 2 บาทสีทองเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมาได้ปล่อยเหรียญสีเงินออกสู่ระบบไปแล้ว 400 ล้านเหรียญ ดูดกลับเข้ามาได้แล้ว 100 ล้านเหรียญ และได้ส่งเหรียญสีทองออกไปทดแทน คาดว่าในช่วง 2 ปีจะดูดเหรียญสีเงินกลับมาให้มากที่สุด

แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 06 เมษายน 2555 เวลา 13:54 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...