กรมธนารักษ์ดูดเหรียญ 2 บาทสีเงินเก็บเข้าคลัง เหลือสีทอง อย่างเดียวกันประชาชนสับสน
นางทัศนีย์ พงศ์ละไม รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า จากภาวะค่าครองชีพแพง มาจากต้นทุนราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทั้งรถเมล์ ขสมก. เรือ และสินค้าประเภทต่างๆ เมื่อทำการปรับราคาสินค้าอาจคิดเป็นเศษสตางค์ ทั้ง 25 และ 50 สตางค์ ดังนั้น กรมธนารักษ์ซึ่งรับผิดชอบในการผลิตเหรียญกษาปณ์ และบริหารจัดการส่งเหรียญออกสู่ระบบ ต้องคอยดูแลเหรียญกษาปณ์ให้เพียงพอ ไม่ให้เกิดปัญหาขาดตลาด เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการให้เกิดการหมุนเวียนของเงินสะดวกคล่องตัวมากขึ้น เพราะมีส่วนทำให้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนคล่องตัว
ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์ 25 และ 50 สตางค์ รองรับสำหรับการใช้ในระบบประมาณ 10-12 ล้านเหรียญ สามารถใช้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2556 แต่การใช้เหรียญเศษสตางค์เริ่มจำกัดลงในสินค้าหลายประเภท เพราะการปรับเพิ่มราคา เช่น ข้าวแกง หรือสินค้าประเภทอื่น มักจะปรับเพิ่มครั้งละ 1-5 บาท โดยจะไม่คำนวณปรับเพิ่มเป็นเศษสตางค์เหมือนกับค่าโดยสาร ทำให้เริ่มบริหารจัดการเหรียญสตางค์ง่ายขึ้น ขณะนี้มีแต่ค่าโดยสารที่ต้องใช้เงินทอนเป็นเศษสตางค์ จึงต้องดูแลเพื่อไม่ให้เหรียญขาดตลาด
สำหรับการผลิตเหรียญ 2 บาทออกใช้ในระบบนั้น ยอมรับการมีเหรียญ 2 บาท 2 ประเภท คือ เหรียญสีเงินและสีทอง ดังนั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน จึงค่อยทยอยดูดเหรียญ 2 บาทสีเงินคืนสู่คลังให้หมด เพื่อต้องการให้มีเหรียญ 2 บาทสีทองเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมาได้ปล่อยเหรียญสีเงินออกสู่ระบบไปแล้ว 400 ล้านเหรียญ ดูดกลับเข้ามาได้แล้ว 100 ล้านเหรียญ และได้ส่งเหรียญสีทองออกไปทดแทน คาดว่าในช่วง 2 ปีจะดูดเหรียญสีเงินกลับมาให้มากที่สุด
แหล่งที่มา เว็บไซต์โพสทูเดย์ 06 เมษายน 2555 เวลา 13:54 น.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น