เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 นายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศส่วนกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสภาพอากาศร้อนในขณะนี้ว่า จากการตรวจวัดอุณหภูมิล่าสุดพบจังหวัดที่มีอากาศร้อนจัดทะลุ 40 องศาเซลเซียส คือ อ.เมืองฯ จ.ตาก มีอุณหภูมิ 41.2 องศา เมื่อวันที่ 14 เมษายน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดจนถึงเวลานี้ รองลงมาคือ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน มีอุณหภูมิ 41 องศา เมื่อวันที่ 16 เมษายน ส่วนที่ จ.ลำปาง มีอุณหภูมิ 40 องศา เมื่อวันที่ 13-14 เมษายน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายตามที่เป็นข่าว
ขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศไทยยังไม่ถึง 40 องศา แต่สภาพอากาศร้อนจัดใกล้เคียงกัน เช่น จ.อุดรธานี 39.7 องศา เมื่อวันที่ 18 เมษายน จ.กาญจนบุรี 39.5 องศา เมื่อวันที่ 12 เมษายน จ.นครสวรรค์ 39.9 องศา เมื่อวันที่ 14 เมษายน และ กรุงเทพฯ 37.2 องศา เมื่อวันที่ 18 เมษายน สถานีตรวจวัดอุณหภูมิอยู่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และดอนเมือง
นายประวิทย์ ให้ข้อมูลว่า ได้คาดหมายวันที่ร้อนจัดที่สุดของเดือนเมษายนคือ วันที่ 25-26 เมษายน เพราะเป็นวันที่ท้องฟ้าเปิดมากที่สุด เมฆน้อย ไม่มีฝนตก ประกอบกับกระแสลมไม่แรง ทำให้คาดว่าจะมีอุณหภูมิสูงสุดในช่วงนั้น นอกจากนี้ วันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นที่กรุงเทพมหานครคือ วันที่ 26 เมษายน ซึ่งตามทฤษฎีจะต้องเป็นวันที่ร้อนที่สุด แต่ไม่สามารถนำวันพระอาทิตย์ตั้งฉากมาเป็นเกณฑ์ในการพยากรณ์อากาศ สถิติหลายปีที่ผ่านมา วันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากศีรษะก็ยังร้อนน้อยกว่าวันอื่นๆ
"ในวันที่ 25-26 เมษายนนี้ คาดการณ์ว่าหลายจังหวัดทางภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง จะมีอุณหภูมิสูงสุด 40-42 องศา ส่วนกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งภาคใต้ จะมีอุณหภูมิประมาณ 38-39 องศา อีกปัจจัยหนึ่งที่นำไปพิจารณาสภาพอากาศคือ ความชื้น ซึ่งพื้นที่กรุงเทพฯ มีความชื้นสูง เมื่อเจอกับความร้อนจัด ๆ ก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว" ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศส่วนกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา
นายประวิทย์ ระบุว่า ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนจัดจะเกิดขึ้นสลับกับฝนตก โดยในวันที่ 21-22 เมษายน จะมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย เกิดพายุฤดูร้อนและฝนตกในหลายพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง แต่จะเริ่มร้อนอีกครั้งเมื่อท้องฟ้าเปิดในวันที่ 25-26 เมษายน 2555 แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ ความรุนแรงของพายุฤดูร้อน ฝนจะตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก รวมทั้งเกิดฟ้าผ่ามากขึ้นด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศบอกว่า แนวโน้มอุณหภูมิของประเทศไทยสูงขึ้นอย่างชัดเจน จากข้อมูลของสถานีตรวจวัดอากาศทั่วประเทศย้อนหลังไปประมาณ 50 ปี พบว่า อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยตลอดทั้งปีสูงขึ้นประมาณ 0.8 องศาเซลเซียส ซึ่งเห็นชัดที่สุดคือหลังจากปี 2534 เป็นต้นมา
ถ้าตรวจสอบสถิติย้อนหลัง 39 ปี พบแนวโน้มจำนวนวันที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นเพิ่มขึ้นทุกภาค ภาคเหนือมีจำนวนวันซึ่งอุณหภูมิสูงกว่าค่าปกติปีละ 12 วัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 วัน ภาคกลาง 27 วัน ภาคตะวันออก 23 วัน ภาคใต้ฝั่งตะวันออก 34 วัน และฝั่งตะวันตก 35 วัน
"ฤดูร้อนในปีนี้อุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าปี 2554 ซึ่งปีที่แล้วมีเพียง 2 วันที่มีอุณหภูมิสูง 40 องศา สำหรับปี 2555 จะมีจำนวนวันที่ร้อนเกิน 40 องศามากกว่าปี 2554 ส่วนสถิติร้อนที่สุดในรอบ 10 ปียังคงเป็นปี 2553 ที่ร้อนมากและร้อนยาวนาน สถิติสูงสุดคือ 44 องศาที่ จ.แม่ฮ่องสอน" นายประวิทย์ กล่าวสรุป
แหล่งที่มา เว็บไซต์กระปุกดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น