วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ การตั้งหิ้งพระในห้องนอน

ในบ้านเรือนของคนไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน ห้อง ๆ หนึ่งที่มีความสำคัญซึ่งชาวพุทธทุกคนควรจะมีไว้ในบ้านมาแต่ครั้งโบราณ คือ "ห้องพระ" แต่อย่างไรก็ตาม บางบ้านก็มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ จึงไม่สามารถที่จะแบ่งห้องใดห้องหนึ่งเป็นห้องพระได้ หลายคนจึงเลือกที่จะตั้งหิ้งพระในห้องนอน ด้วยเห็นว่า เป็นห้องที่มีความเหมาะสมที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตั้งหิ้งพระในห้องนอนก็มีข้อจำกัดถึงความไม่เหมาะสมอยู่บ้างในกรณีที่เป็นห้องนอนของชายหญิงที่อยู่เป็นคู่สมรส เพราะอาจมีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ ภายในห้องนอน เช่น การเปลี่ยนเสื้อผ้า การร่วมหลับนอน เป็นต้น
  
ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นห้องนอนคนโสด สามารถตั้งหิ้งพระได้ แต่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะจัดหิ้งพระไว้ปลายเตียงนอน เพราะถือเป็นการลบหลู่อย่างมาก นอกจากนี้ ควรตั้งอยู่ห่างจากที่นอน เช่น หากห้องนอนมีพื้นที่ว่างพอ ควรทำผ้าม่านหรือม่านกั้นแบ่งไว้ ด้วยเหตุที่ว่า เราอาจนอนเผลอแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าองค์พระ เหตุผลอีกประการ คือ หากเราต้องการนั่งสมาธิ เจริญภาวนาต่อหน้าองค์พระ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อเห็นเตียงหรือที่นอนแล้วจะทำให้ผู้นั่งเกิดความรู้สึกขี้เกียจ จะทำให้นั่งได้ไม่นาน หรือ จิตไม่มีสมาธิอยู่กับการนั่งสมาธิก็เป็นได้

สำหรับเรื่องของการจัดตั้งหิ้งพระให้เหมาะสม ในกรณีที่ตั้งติดกับฝาผนัง ควรตั้งหิ้งพระในตำแหน่งที่สูงกว่าศีรษะของคนเรา หรือ หากวางบนหลังตู้ก็ต้องดูขนาดความสูงด้วย เพราะหากตั้งหิ้งพระต่ำกว่าศีรษะคนเรา จะทำให้คนในบ้านจะไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้า อาชีพการงานเติบโตช้า จะถูกลดตำแหน่งลดบทบาทสายงาน และที่สำคัญ หิ้งบูชาต้องสะอาด หมั่นดูแลมิให้มีฝุ่นจับองค์พระหรือรูปเทพต้องสะอาด หากปล่อยให้หิ้งบูชาสกปรก คนในบ้านจะเจ็บป่วยและทำมาค้าขายไม่ขึ้น           นอกจากนั้นแล้ว ควรหมั่นเปลี่ยนน้ำเปล่า และดอกไม้สดที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหิ้งเป็นประจำ อย่าปล่อยให้ดอกไม้แห้งเฉาคาทิ้งไว้ เพราะจะทำให้คนในบ้านมีชีวิตขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นั่นเอง

ทั้งนี้ การจัดวางทิศทางของห้องพระและโต๊ะหมู่บูชาก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยมักจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออก หรือทิศเหนือ การหันไปทางทิศใต้ และทิศตะวันตกเป็นสิ่งไม่ดี ซึ่งอาจเกิดสิ่งที่ไม่เป็นมงคล และการไม่รุ่งเรืองของหน้าที่การงานต่าง ๆ ของคนในบ้านตามความเชื่อถือที่มีต่อ ๆ กันมา อย่างไรก็ตาม ยังมีความเชื่อสำหรับการจัดวางในทิศทางต่าง ๆ ของผู้ที่เกิดในแต่ละปี (ขึ้นกับความเชื่อของแต่ละคน) ดังนี้

          1. เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือเด็ดขาดเพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงจนถึงขั้นเสียชีวิต   

          2. เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเด็ดขาดจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน
    
          3. เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเด็ดขาดจะส่งผลให้ผู้หญิงและสมาชิกในครอบครัวเกิดอันตรายได้
    
          4. เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออกเด็ดขาดจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงคนในบ้านจะเสียชีวิต
    
          5. เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเด็ดขาด  จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหายทั้งชายและหญิง   

          6. เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัวมีความยุ่งยากที่สุดจนหาความสงบสุขไม่ได้
    
          7. เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน
   
          8. เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม  ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพราะจะส่งผลให้ครอบครัวเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝันได้
   
          9. เจ้าของบ้านเกิดปีวอก  ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว
    
        10. เจ้าของบ้านเกิดปีระกา  ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เพราะจะนำความทุกข์โศกมาเยือนครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ

        11. เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเด็ดขาดจะส่งผลร้ายให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมากถึงขั้นเสียชีวิตได้

        12. เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอดเสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

แหล่งที่มา   เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...