หลังจากที่มีการเปิดตัวรถยนต์บินได้ไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุด ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลในอังกฤษ ก็กำลังร่วมกันพัฒนาระบบถนนบนท้องฟ้า เพื่อรองรับกับการนำรถยนต์บินได้มาใช้ในอนาคต
แม้ว่าจะฟังดูเป็นนิยายวิทยาศาสตร์มากไปนิด หากมีใครสักคนพยายามที่จะสร้างเครือข่ายถนนบนท้องฟ้าเพื่อรองรับกับการจราจรในอนาคต ในวันที่รถยนต์สามารถบินได้บนท้องฟ้า แต่เรื่องดังกล่าวกลับไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป เพราะผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรหลายคนจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลในอังกฤษ กำลังร่วมมือกันวางระบบถนนบนท้องฟ้า
เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า อีกไม่นานนี้ รถยนต์ที่สามารถบินได้ จะได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม จนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนโลกแห่งความจริง และระบบถนนที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้น จะช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์บินได้ เดินทางบนท้องฟ้าได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ในเบื้องต้นนั้น ทีมนักวิจัยได้วางแผนที่จะใช้เครื่องมือ 2 ประเภทเพื่อวางระบบถนนบนท้องฟ้า นั่นก็คือ อุปกรณ์จีพีอาร์เอส ที่มาพร้อมกับระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบไฮเทค รวมถึงระบบหลบหลีก ที่มีไว้เพื่อป้องกันการพุ่งชนกันกลางอากาศ ซึ่งในการทำระบบถนนบนท้องฟ้านั้น นักวิจัยได้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่อยู่ใกล้กับสนามบิน โดยเฉพาะสนามบินฮีทโธรว์และ สนามบินแกตวิค ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เนื่องจากไม่ต้องการรบกวนการขึ้นลงของเครื่องบิน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การพัฒนาระบบถนนบนท้องฟ้านั้น อาจต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง และอาจจะใช้การได้จริงในอีก 20-30 ปีข้างหน้า เพราะต้องรอให้รถยนต์บินได้ได้รับความนิยมจากคนทั่วไป และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเสียก่อน
นอกจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลในอังกฤษแล้ว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโลซาน ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็กำลังพัฒนารถยนต์บินได้รูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นตัวแบบให้แก่การพัฒนารถยนต์บินได้ในอนาคต โดยมหาวิทยาลัยโลซานได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล เพื่อช่วยให้การออกแบบระบบถนนบนท้องฟ้ามีความละเอียดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือ นาซา ก็กำลังทำการทดลองในโครงการลักษณะเดียวกันนี้อยู่ด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ บริษัท PAL-Vของประเทศเนเธอร์แลนด์ ประสบความสำเร็จในการทดลองนำรถยนต์บินได้ขึ้นบินกลางอากาศ โดยตั้งชื่อรถยนต์บินได้นี้ตามชื่อของบริษัทว่า PAL-V ซึ่งทางบริษัท PAL-V กำหนดเอาไว้ว่า รถยนต์บินได้นี้จะบินที่ความสูงไม่เกิน 1,000 - 1,500 ฟุต เพื่อลดความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหากบินสูงเกินไป และจะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งขณะวิ่งบนถนน และบินอยู่กลางอากาศ
โดยนายโรเบิร์ต ดินจ์แมนซ์ ผู้บริหารระดับสูง และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท PAL-V กล่าวว่า ผู้ขับขี่รถยนต์บินได้สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะพา PAL-V บินขึ้นไปเหนือภูเขา / เปลี่ยนมาเป็นการขับรถบนท้องถนน หรือจะพาบินข้ามน้ำ และการจราจรอันติดขัดก็ได้ ซึ่งทางบริษัทจะเตรียมนำออกวางจำหน่ายในอีก 2 ปีข้างหน้า ในราคาเริ่มต้นที่ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9,000,000 บาท
แหล่งที่มา เว็บไซต์ THAIZA.COM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น