กาแฟมาจากไหน??

เครื่องดื่มยอดฮิต 1 ใน 3 รองลงมาจากน้ำเปล่าและชา ก็คือ กาแฟ ที่คนวัยทำงานมักดื่มกันเป็นประจำ ซึ่งเรื่องราวของกาแฟมีให้ทำความรู้จักมากมาย

กำเนิดกาแฟ เชื่อว่ากาแฟถูกค้นพบโดย คนเลี้ยงแกะชื่อว่า คาลดี (Kaldi) ซึ่งเป็นชาวอาบิสซีเนีย (ประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน) ซึ่งสังเกตพบว่า แกะมีอาการคึกคัก กระปรี้กระเปร่า เมื่อกินผลไม้สีแดงๆ จากต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งก็คือ กาแฟ

กาแฟเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพืชเศรษฐกิจที่จัดว่ามีความสำคัญ กาแฟเกือบทุกสายพันธุ์ มีต้นกำเนิดในทวีปแอฟริกา แต่ที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายมีเพียง 2 สายพันธุ์ คือ อาราบีก้า เป็นกาแฟดั้งเดิม รสชาติดี และโรบัสต้ามีปริมาณกาเฟอีนสูง มีรสขมและเปรี้ยว มีราคาถูกกว่าอาราบีก้า

กาแฟดำ (Black Coffee)
เสิร์ฟโดยไม่ใส่นม หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่ากาแฟดำคือ เอสเปรสโซ่ ซึ่งความจริงแล้วกาแฟดำกับเอสเปรสโซ่มีความแตกต่างกันที่ถ้วยเสิร์ฟของเอสเปรสโซ่จะมีขนาดเล็กกว่าและนิยมดื่มให้หมดในอีกเดียว

เอสเปรสโซ่ (Espresso)
เป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบยุโรปตอนใต้ มีวิธีการชงโดยใช้ไอน้ำและน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟละเอียด ควรดื่มตอนชงเสร็จใหม่ๆ เพราะหากทิ้งไว้นานเอสเปรสโซ่จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศทำให้เสียรสชาติ

คาปูชิโน (Cappuccino)
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ส่วนประกอบหลักเป็นเอสเปรสโซ่กับนม ซึ่งชาวอิตาเลียนมักดื่มเป็นอาหารเช้าพร้อมกับขนมปัง

ลาเต้ (Latte)
เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า นม ประกอบด้วย เอสเปรสโซ่ 1/3 ส่วน และนม 2/3 ส่วน ตามด้วยโฟมนมด้านบน ในการชงลาเต้ บาริสต้าจะขยับข้อมือเพียงเล็กน้อยในขั้นตอนการรินนมทำให้เกิดลวดลายต่างๆ ที่เราเห็น

มอคค่า (Mocha)
เป็นกาแฟอาราบิก้าชนิดหนึ่งที่ปลูกในท่าเรือมอคค่า ประเทศเยเมน มีกลิ่นคล้ายช๊อกโกแลต ถึงแม้จะไม่มีส่วนผสมของช๊อกโกแลตเลยก็ตาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟมอคค่า

ถ้าหากจะถามว่า ดื่มกาแฟในปริมาณเท่าไร ถึงจะเพียงพอในแต่ละวัน คงจะหามาตรฐานที่แน่นอนไม่ได้ แต่ควรจะอยู่ที่ 1-2 แก้วต่อวัน โดยขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพร่างกายของผู้ดื่ม ซึ่งกาแฟมีผลต่อร่างกายของคนเราต่างกัน

แหล่งที่มา   นสพ. M2F วันพฤหัสบดีที่ 19 เม.ย. 55 (127)