เมื่อ...ฝันทีละบรรทัด...เป็นจริง
คราแรกเพียงต้องการหาหนังสือมาอ่านก่อนนอนกล่อมตัวเองให้ง่วง แต่พอเลือกหยิบหนังสือ “ฝันทีละบรรทัด” ผลงานของ “ศรีสรรค์ พรหมหา” ร่วมสร้างสรรค์ผลงานเขียนโดย “พัลลภ สามสี” ผู้เป็นลูกชายและอดีตบรรณาธิการสำนักพิมพ์มติชน ซึ่งปัจจุบันไปทำงานผู้เชี่ยวชาญภาษาไทยที่ปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อได้อ่าน “ฝันทีละบรรทัด” กลับปลุกเราให้เราตื่น...
ทั้งตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของแว่นแก้ว ตัวละครในเรื่อง ไหนจะตื่นตัวตื่นใจกับประวัติผู้เขียน พร้อมๆ กับพลังความฝันของ ศรีสรรค์ พรหมหา แม่ค้าผัดเส้นในตลาดเคหะร่มเกล้า วัย 56 ปี ที่จบการศึกษาเพียงประถมสี่ ทว่ารักการอ่านยิ่งนัก มีหนังสือในอาณัติกว่า 2,000 เล่ม (ซึ่งเธอเรียกว่า สวนอักษร) ไม่มีความรู้ความถนัดทางด้านคอมพิวเตอร์เลย แต่วันหนึ่งเธอยอมว่างเว้นจากงานจับตะหลิวยืนอยู่หน้าเตา มาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ตามที่ลูกชายสอนขั้นพื้นฐาน เปิด ปิด พิมพ์ เว้นวรรค ย่อหน้า และการเข้าโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ก...เพียงเท่านี้ ความใฝ่ฝันที่อยากเขียนนิยายก็ก่อร่างสร้างเรื่องขึ้น
ศรีสรรค์ พรหมหา หรือป้าแต๋ว เล่าด้วยน้ำเสียงสดใส ฉะฉาน ทว่าเจือด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่คลาย เหมือนความฝันที่อยากเขียนหนังสือเพิ่งเกิดขึ้น “เมื่อสองสามปีก่อนลูกชายไปทำงานที่จีน เขาเลยให้ป้าใช้คอมพ์เพื่อติดต่อกัน ตอนนั้นใช้เอ็มเอสเอ็น (MSN) และก็มีบล็อก (Blog) เขาให้ป้าเขียน แต่พอเขียนไปเขียนมาป้าก็เลยถามว่า งั้นแบบนี้แม่เขียนนิยายได้ไหม (หัวเราะ)”
พอสิ้นคำตอบจากลูกว่า “ได้สิแม่” ป้าแต๋วก็ปลุกพลังความฝันที่มีตลอดทั้งชีวิต สร้างตัวละครแว่นแก้วขึ้นมา พร้อมกับเปิดกรุอดีตของเด็กอีสานผู้ยากจนไร้โอกาสทางการศึกษา ทว่ารักเรียนขึ้นมาให้มีชีวิตโลดแล่นอีกครั้ง แม้ว่าป้าแต๋วจะเลือกนำชีวิตของตัวเองมานำเสนอ ทว่าในความเป็นนิยายเรื่องราวนั้นเสมือนจริงยิ่งกว่าชีวิตจริง หรือชีวิตจริงเป็นยิ่งกว่าละคร
ป้าแต๋วเขียนนิยายในมายสเปซ ทีละตอนสั้นๆ และจะเริ่มเขียนใหม่เมื่อได้รับการ “คอมเมนต์” จากลูกชาย ดังนั้นพอผลงานเขียนในโลกไซเบอร์ถูกนำมาพิมพ์รวมเล่ม จึงมีคอมเมนต์ของพัลลภอยู่แทบเกือบทุกท้ายบท จุดนี้ช่วยทำให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความพยายามของป้าแต๋ว ทั้งการพิมพ์และการนำเสนอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องพยายามไล่หาตัวอักษร ไหนจะต้องหา Shift เพื่อกดไม้ไต่คู้ แต่เมื่อใจไปแล้วป้าแต๋วจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันของแม่ลูกคู่นี้ได้อย่างอบอุ่นน่ารัก
พัลลภ กล่าวถึงแม่ว่า “ครั้งแรกที่เห็นแม่เขียนออกมาในคอมพิวเตอร์ เป็นข้อความสั้นๆ แต่มีน้ำหนักในเชิงความหมายนั้น ก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก เพราะปกติแม่ก็ชอบเขียนกลอนอยู่แล้ว และชอบอ่านหนังสือเป็นนิสัยประจำตัว แต่ทึ่งในความพยายาม ถ้าคุณไม่เคยเห็นมือของแม่ผมจะนึกไม่ออก แต่ผมรู้ดี เพราะมือของแม่แข็งมาก และก็เต็มไปด้วยรอยน้ำมันลวก นิ้วก็ป้อมๆ สั้นๆ กว่าที่แม่จะค่อยๆ ดัดนิ้วบรรจงกดแป้นพิมพ์ได้ อีกทั้งยังต้องเรียนกับเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์คู่กันไปอีก เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยทีเดียว”
ทุกวันนี้ ป้าแต๋วก็ยังเจียดเวลาจากการยืนอยู่หน้าเตา มานั่งหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อสานต่อความฝัน “เราอ่านมาเยอะมาก มีถ้อยคำอยู่ในหัวเต็มไปหมด พอได้เขียนใจก็ประหวัดไปถึงตอนอยู่ต่างจังหวัด มันคือชีวิตจริง เติมแต่งน้อยมาก แต่ตอนแรกป้าไม่รู้ว่าหน้ามันเลื่อนได้ ก็เลยพยายามเขียนรวบรวมเท่าที่ช่องมี มันก็เลยสั้น ไม่ได้บรรยายภาพอะไรมากมาย ทั้งๆ ที่มีภาพอยู่ในหัวเต็มไปหมด แต่พอรู้แล้วก็เขียนได้ยาวขึ้น นี่ก็เขียนเรื่องหนึ่งอยู่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ครัว เขียนเพราะใจเราอยากเขียน ไม่ได้หวังว่าจะได้พิมพ์ เพราะเล่มนี้ก็ไม่ได้คิดฝันเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ไม่กล้าบอกกล้าพูดว่าเราเป็นนักเขียน เพราะพื้นฐานความรู้เราน้อย คนเป็นนักเขียนดูมันยิ่งใหญ่เกินไป เราแค่คนอยากเขียนและได้เขียนตามความฝัน ซึ่งมันเกินความฝัน”
แม่ลูกคู่นี้ยังสร้างสรรค์งานวรรณกรรมร่วมกัน ท่ามกลางความรัก ความผูกพัน “ผมว่าแม่มีแรงขับเยอะมากเหลือเกิน และก็ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังไม่ได้เล่า อย่างพอจบเรื่องแรก ซึ่งตอนนั้นแม่ก็ยังไม่รู้ว่าผมจะเอาเรื่องที่แกเขียนไปส่งสำนักพิมพ์ แม่ก็บอกว่าจะเขียนอีกเรื่องต่อละนะ ผมก็เชียร์ส่งทันที ว่าเอาเลย เขียนเลย เดี๋ยวคอมเมนต์ให้เหมือนเดิม เพราะตอนนั้นแม่กำลังสนุกที่เขียนได้เยอะ และที่สำคัญมีคนอ่าน” พัลลภ กล่าว
ท้ายสุด แม่ค้าหรือนักเขียนวัย 56 ปี ฝากบอกว่า ไม่มีอะไรสายเกินไปถ้าเราลงมือทำ และถ้าใจเรายังรักที่จะทำ ทำอะไรก็มีความสุข เราสามารถเริ่มทำอะไรก็ได้หมดในทุกๆ เช้าวันใหม่ หากพลาดผิดพรุ่งนี้ก็สามารถแก้ไขเริ่มทำใหม่ได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เพราะถ้าเราทำแล้วมีความสุข ความสำเร็จก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
มาเริ่มฝันทีละบรรทัดกันเถอะ!!!
แหล่งที่มา เว็บไซต์โพสทูเดย์ โดย...มัทรียา 23 มกราคม 2555 เวลา 08:06 น.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น