วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

หลงกลิ่นเวลา

ทุกคนมีเวลาเท่ากัน แต่ก็มักบอกตัวเองและคนอื่นว่า ไม่มีเวลา ทุกแห่งหนคงมีคำกล่าวทำนองนี้ให้ได้ยินบ่อยๆ จนเสมือนทุกที่มักมีใครบางคนคอยขโมยเวลา

เขาเป็นคนหนึ่งที่มักวุ่นทั้งวัน ประชุมโน่นประชุมนี่จนบอกใครต่อใครว่า ไม่มีเวลา เมื่อเป็นบ่อยเข้า จึงรู้สึกหวงแหนเวลา ทุกครั้งที่มีโอกาสจึงมักจะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย

ชักสงสัยเหมือนกันว่าใครเป็นคนขโมยเวลาใครกันแน่...หรือตัวเราขโมยเวลาตัวเอง

มักบอกคนอื่นเสมอๆ เราเป็นคนหนุ่ม...ต้องใช้วัยของเราให้คุ้ม อาชีพเรามันต้องหนุ่มตลอดเวลา...ซึ่งความจริงก็ควรจะเป็นอย่างนั้น

“ความฝันผมคือการได้เสพโคเคนสักครั้งในชีวิต...มันต้องสุดยอดแน่ๆ”

ชายหนุ่มผ่านเลยตัวเลข 25 หมาดๆ เล่าความฝัน บางคนในวงสนทนาถึงกับรีบสวนในทันที “ไม่มีฝันที่ดีกว่านี้แล้วเหรอวะ” ไม่ผิดทั้งคู่ แต่ก็น่าคิด ใครจะฝันแทนกันได้ ใครจะฝันเหมือนกันทุกคน

...หนุ่มคนนี้ร่ำรวยฝันมากมาย เขามักตั้งคำถามพร้อมวาดฝันแปลกๆ แหวกๆ ให้คนอื่นฟังอยู่เสมอๆ
“ถ้าผมวัยเท่าพี่ผมจะไม่ขับรถรุ่นนี้”
“ผมว่าพี่ไม่ควรใส่รองเท้ายี่ห้อนี้ ใครๆ เขาก็ซื้อใส่กันได้”
“เราต้องล้ำสิ...จะมีเท่าคนอื่นได้ยังไง เราต้องล้ำในทุกเรื่อง”
“ผมซื้อบ้านแล้ว ผมจะซื้อรถ”
“ผมเพิ่งถอยแทกฮอยเออร์มา มือสอง ราคา 2 หมื่นนะ”
“แหวนอีกวง”
“ผมจะรวย...ถ้าผมรวย ผมจะทำให้พี่ล้ำด้วย เราจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้หรอก”

ฝันเขาไม่หยุด ถึงขั้นอยากเลี้ยงโสเภณีเซื่องๆ ที่ซื่อสัตย์ไว้สักคน คอยปรนเปรอความใคร่ ก็เมืองนี้มันเหงา...ว่าเข้าไป
วางแผนสานฝันด้วยการจะเปิดร้านเพชร ตั้งเป้าโกยรายได้ปีละ 10 ล้านบาท บินไปขายฝรั่งที่ภูเก็ต ขึ้นลงกรุงเทพฯ สัปดาห์ละครั้ง นัดเพื่อนจัดปาร์ตี้ให้สาใจ ชีวิตสุขสุดๆ แบบนี้หาไม่ได้แล้ว...ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์

“ถ้าอยู่ไปอย่างนี้เรื่อยๆ เมื่อไหร่จะรวยวะพี่”
“ดูพ่อผมสิ หนี้บัตรเครดิตบาน จะเกษียณ บ้านยังไม่มีปัญญาซื้อ”
“เราต้องรวยเท่านั้น”

เขาเอ่ยขึ้นลอยๆ... “โลกทุนนิยมมันมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น”
“ใช่ๆ” ???

เสียงปรบมือดังเกรียว ทันทีที่หนุ่มตี๋ร้องเพลงจบลง จะด้วยความไพเราะของบทเพลงหรือเพราะหน้าตามัน...ไม่รู้ แต่ลานกลางเค วิลเลจ คึกคักขึ้นทันตา

“น้องขออีกแก้ว” เขาสั่ง

เพื่อนผู้มาไกลจากเมืองไข่มุกแห่งอันดามันวาดฝันเดินทางมาเยือนเมืองหลวงปีละครั้ง เที่ยวคราวเดียวห้าหมื่นบาท แล้วฉีกกระเป๋าทิ้ง พกพาความฝันหรูหราไม่ต่างจากเพื่อน
“ผมเริ่มเห็นด้วยกับพี่”
“ใช่...จริงๆ พี่...ถูกต้องเลย” หนุ่มน้อยยิ้มตาหยีพร้อมยกนิ้วโป้งประกอบคำพูด
“เอ็งใส่รองเท้าคู่ละหมื่นกว่าที่ถอยมา ไปจีบสาวเชียร์เบียร์ได้ป่าววะ”
“นั่นสิพี่ มันไม่มองแน่ เด็กเสิร์ฟผู้ชายมันยังไม่เดินเฉี่ยวมาบริการเราแถวนี้เลย”
“ใครจะเชื่อว่าเอ็งใส่โรเล็กซ์เรือนละแสนสอง ของเก๊ชัวร์...ว่ามั้ย”
“นั่นน่ะสิพี่”

ราตรีเริ่มโรยรา...เพื่อนที่น่ารักรูดบัตรเครดิตจ่ายค่าละเลียดเบียร์ฮูการ์เด้นแพงระยับ ...ขยับยกขบวนตระเวนหาข้าวต้มกินต่อ
หนุ่มนักท่องเที่ยวเล่าแผนการ ต้องตื่นเช้าไปซื้อดอกไม้ให้หญิงสาวรับปริญญาโท บ่ายไปงานแต่งเพื่อนที่ จ.ระยอง เข้ากรุงเทพฯ ผลาญเงินเล่นให้หมด...กลับไปทำงานโรงแรมหรูที่ภูเก็ต...เก็บเงิน...ปีหน้าเจอกันใหม่

“บินขึ้นบินลงกี่เที่ยวก็ไป...ถ้าได้เที่ยว” เธอบอกเป้าหมายชีวิต
“ตอนเรียนไม่ค่อยได้เที่ยว แม่ให้เรียนอย่างเดียว ดีนะที่ไม่ติดคณะบัญชี”
“นี่เพิ่งกลับจากเชียงใหม่” เธอเล่าพลางบอกแผนการทริปต่อไป
“หนูจะไปมันทุกที่ที่มีโอกาส”
“คนเรามีเวลาเท่ากันใช่มั้ยพี่”
“ก็ใช่”
“หนูว่าความสุขของชีวิตไม่มีอะไรสนุกมากไปกว่าการได้เดินทาง ได้ใช้เวลาเหยียบโลกเล่นให้ทั่ว”
“เวลามีเท่ากัน แต่ชีวิตยาวไม่เท่ากัน”...เธอช่างคิด
“หนูจะหางานที่ต้องได้เดินทางเท่านั้น”
“ฝันไปเถอะ...เรียนจบให้ไปช่วยทำธุรกิจที่บ้าน น่าเบื่อจะตาย”
“พี่ว่า...คนเราเกิดมาแล้วไม่ได้เที่ยวไหนเลย มันจะเกิดมาทำไม” เธอแสร้งโยนคำถาม...แต่เหมือนไม่อยากจะฟังคำตอบ
“อีก 20 ปี พี่ก็เกษียณ...พี่ไม่เที่ยวบ้างล่ะ”
“ก็เที่ยวอยู่”
“หนูไม่เห็นพี่ค่อยได้ไปไหน”
“ทำงานก็ได้เที่ยวทางความคิด”
“เราต่างถูกขโมยเวลาด้วยหน้าที่การงาน”
“บางคนลงทุนซื้อรถเอสยูวีราคาแพง เพียงแค่เติมช่องฝันให้เต็ม ฝันจะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดเดือนละครั้ง...แต่เอาเข้าจริงทั้งปีรถเอสยูวีได้ย่ำอยู่แค่ชานเมืองกับใจกลางกรุงเทพฯ”
“เชื่อเถอะ...บางทีตัวหนังสือก็พาเราท่องโลกได้เหมือนกัน โลกมันกว้างนะ”
“ไม่เถียงค่ะ...แต่เหยียบโลกผ่านหนังสืออย่างเดียวมันไม่ได้สัมผัสกลิ่นเวลานะ”
“อาจจะใช่”
“รวยแล้วคงได้เที่ยวมั้ง”
“ชาติไหนพี่” เธอย้อนพร้อมเสียงหัวเราะร่วน
“ชาติหน้า”...เขายิ้มกับตัวเองในค่ำคืนอันยาวนาน

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์  โดย...พิเชษฐ์ ชูรักษ์ 29 มกราคม 2555 เวลา 08:03 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...