ใครว่ายิ่งกินเยอะ ยิ่งทำให้อ้วน เผละ แก่ โทรม โรคร้ายถามหา...
ไม่เสมอไปหรอก วันนี้เราจะขอแนะนำทางเลือกใหม่
ที่จะทำให้สาวๆ ยิ่งดื่ม ยิ่งดูดี
แท่น...แทน...แท้น...จะอะไรซะอีก ถ้าไม่ใช่
นมถั่วเหลือง! ของหยิบง่ายใกล้มือนี่เอง
ด้วยความที่นมถั่วเหลืองที่เราคุ้นเคยกันมานานตั้งแต่เด็ก มีวัตถุดิบมาจากธัญพืช จึงมีประโยชน์มากมายซะจนสมัยนี้สาวๆหลายคนเลิกทานนมวัว แล้วหันมาดื่มนมถั่วเหลืองแทน เพราะได้ประโยชน์จากโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ช่วยให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญของผู้หญิงให้สมดุล
แต่สำหรับชีวิตของสาวๆ ชาวเรา ที่ต้องประสบพบเจอสิ่งต่างๆ มากมายใน 1 วัน ประโยชน์เดิมๆ จากนมถั่วเหลืองเพียวๆ คงไม่พอ เราต้องการประโยชน์หลากหลายที่ได้จากการกินนมกล่องเดียว! และในวันนี้เจอแล้ว เอานมถั่วเหลืองมาผสมโอ๊ตและมอลต์ดีกว่า! หลายคนคงสงสัยว่าโอ๊ตและมอลต์ มีดีอะไร วันนี้เรามีคำตอบ
ข้าวโอ๊ต เป็นสุดยอดธัญพืช เต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ เพราะให้พลังงานสูง แต่มีไขมันที่ต่ำ มีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยในระบบขับถ่าย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานไม่หิวระหว่างมื้อ ช่วยดูดซับคอเลสเตอรอล จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ส่วนมอลต์ ก็เป็นผลผลิตจากเมล็ดข้าวบาร์เลย์ ที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งข้าวบาร์จัดเป็น 1 ใน 5 อาหารที่มีคุณค่าสูง ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆเกือบ 50 ชนิด โปรตีนที่ได้จากมอลต์ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการเจริญเติบโต จำเป็นต่อการผลิตเอนไซม์ ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันอีกด้วย
แหล่งที่มา เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2555 08:23 น.
ข้าวโอ๊ต ธัญพืชมากประโยชน์
ข้าวโอ๊ต จัดเป็นธัญพืชที่ดีมากชนิดหนึ่งที่เรานิยมนำมารับประทานเป็นอาหารเช้า เนื่องจากข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งอาหารคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานสูง มีเส้นใยมากและสามารถละลายน้ำได้จึงดูดซึมน้ำตาล ไขมัน ของเสียต่างๆได้ดี ทำให้เราอิ่มท้องได้นานแถมไม่อ้วน แต่นอกเหนือจากคุณประโยชน์เหล่านี้แล้วคุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า ข้าวโอ๊ตมีสรรพคุณมากกว่าที่เราคิด ทั้งยังช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคร้ายและนำมาใช้เสริมความงามได้อีกด้วย
ข้าวโอ๊ต มีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างทันที และเป็นที่ทราบกันดีว่าข้าวโอ๊ตมีสารอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะมีเส้นใยมากทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะลำไส้ของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงลดอาการท้องผูกและดูดซึมน้ำตาล ไขมัน ของเสียต่าง ๆ ได้ดี ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานไม่หิวระหว่างมื้อบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่สำคัญคือ เบต้ากลูแคน เป็นเส้นใยอาหารที่สามารถละลายในน้ำได้ดี มีคุณสมบัติคอยดูดซับคอเลสเตอรอลในลำไส้เล็กและปล่อยเป็นของเสียออกจากร่างกาย การรับประทานข้าวโอ๊ตจึงช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและโรคหัวใจได้ผลดี ซึ่งองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) รับรองผลการศึกษาวิจัยว่า หากร่างกายได้รับเบต้ากลูแคนอย่างน้อย 3 กรัมต่อวันจะสามารถช่วยลดปัญหาคอเลสเตอรอลได้ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ปัจจุบันเรามักนิยมนำข้าวโอ๊ต มารับประทานเป็นอาหารเช้าเพื่อสุขภาพเพราะมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ข้าวโอ๊ต 100 กรัม ให้พลังงาน 390 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 66 กรัม ไขมัน 7 กรัม โปรตีน 17 กรัม วิตามินบี 5 1.3 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 5 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 177 มิลลิกรัม และกากใยไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ 4 กรัม ซึ่งเราสามารถนำข้าวโอ๊ตมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนูที่อร่อยได้ไม่ซ้ำกันและสามารถรับประทานได้ตลอดและรวดเร็วเหมาะกับวิถีชีวิตชาวเมืองที่ต้องรีบเร่งด้วย เช่น นำน้ำเต้าหู้หรือนมสดใส่แก้วแล้วผสมข้าวโอ๊ตลงไป (ซึ่งสามารถหาซื้อข้าวโอ๊ตได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป) หรือทำโจ๊กข้าวโอ๊ตร้อน ๆ ด้วยการนำข้าวมาต้มให้เปื่อยจนกลายเป็นโจ๊กแล้วเติมข้าวโอ๊ตลงไป เพิ่มรสชาติด้วยหมูสับ ผัก หรือใครชอบขนมหวานก็สามารถนำไปผสมกับคุกกี้ ขนมปังก็ได้คุณประโยชน์เช่นกัน
นอกจากอาหารคาวหวานแล้ว ข้าวโอ๊ตยังสามารถนำมาใช้บำรุงความงามกันได้อีกมากมาย เพราะข้าวโอ๊ตมีวิตามินอีเป็นกลีเซอรีนตามธรรมชาติ คงความชุ่มชื่นของผิวได้ดี โดยเราสามารถนำข้าวโอ๊ตมาผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาสครับผิวหรือพอกหน้าหรือสามารถนำมาผสมน้ำอาบ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น ไม่มัน เพราะมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยดูดซับความมันออกจากผิวได้
แหล่งที่มา เว็บไซต์ BKK Parttime 1 กุมภาพันธ์ 2012
คุณรู้จัก มอลต์ ดีแค่ไหน
ได้ชื่อว่าเป็นธัญพืชที่ให้ประโยชน์ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบแน่ชัดว่า แท้ที่จริงแล้ว ธัญพืชอย่างมอลต์ให้ประโยชน์แก่ร่างกายของเรามากน้อยแค่ไหน คำตอบที่แท้ซึ่งหลายคนไม่เคยทราบมาก่อนก็คือ มอลต์ให้คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย โดยมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวในรูปของกลูโคสซึ่งร่างกายสามารถใช้เป็นพลังงานได้ทันที และยังมีน้ำตาลในรูปของโอลิโกแซค-คาไรด์ (oligosaccharide) ที่จะดูดซึมอย่างช้าๆ จึงทำให้ร่างกาย ได้รับพลังงานต่อเนื่อง ช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล
นอกจากคาร์โบไฮเดรตแล้ว คุณรู้ไหมว่ามอลต์ยังให้โปรตีนชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย โปรตีนใน มอลต์เป็นสารอาหารที่สำคัญในการเจริญเติบโตและเป็นส่วนประกอบหลักของอวัยวะต่างๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ จำเป็นต่อการผลิตเอนไซม์ ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน
นอกจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งหลายคนไม่แน่ใจว่าเพียงพอหรือไม่ อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหาร ผู้ให้การปรึกษาด้านโภชนบำบัดแนะนำให้คนทั่วไปลองหันมาดูแลสุขภาพเพิ่มเติมด้วยการกินของที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงสำหรับสุขภาพที่ดีของคุณ
อาจารย์ศัลยาบอกว่า “คนส่วนใหญ่มักไม่มั่นใจในการกินของตัวเองว่าร่างกายจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนจากการกินในแต่ละวัน การเสริมอาหารด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารดีๆ ที่ต้องการเพิ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการทั่วโลกแนะนำให้บริโภคอาหารที่ประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืช ให้มากขึ้น และเลือกไขมันที่ดี โดยบรรดาธัญพืชทั้งหลาย ข้าวบาร์เลย์จัดเป็น 1 ใน 5 อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ซึ่งมอลต์ก็คือสารอาหารธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่ผลิตจากเมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมายเกือบ 50 ชนิด”
รู้อย่างนี้แล้ว หลายคนคงหันมาหามอลต์กันเป็นทิวแถว !
แหล่งที่มา เว็บไซต์สนุกดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น