หม่าหยุน 马云 หรือแจ๊ค หม่า
ผู้ก่อตั้งอลิบาบา เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอันดับ 4 ของโลก
จากเด็กเกเรสู่เศรษฐี 4,000 ล้าน
ดูจากอดีตแล้ว
อาจไม่เชื่อว่าคนอย่างหม่าหยุนจะผงาด
ขึ้นเป็นเศรษฐีพันล้านได้
เพราะในช่วงต้นของยุค 80
เขายังเป็นวัยรุ่นที่มีผลการเรียนย่ำแย่และเกเรมาก
แต่โชคดีที่เขากลับตัว
หันมาเอาจริงเอาจังกับการเรียนภาษาอังกฤษ
และมุ่งมั่นกับการสอบเอนทรานซ์
ที่สุดท้ายก็สามารถเข้าเรียนในวิทยาลัยครูแห่งหนึ่งในเมืองหังโจวได้
และเป็นบัณฑิตเพียงคนเดียวในรุ่นที่กลายเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
ในปี 1995 หม่าหยุนคนที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่
‘มีภาษาอังกฤษดีที่สุดในหังโจว’
ก็ได้งานชิ้นหนึ่งที่ต้องเดินทางไปยังสหรัฐ
โดยตำแหน่งแล้วเขาคือตัวแทนเจรจา
แต่หน้าที่หลักคือการไปขอเงินจากบริษัทในสหรัฐ
หม่าหยุนรำลึกอดีตเล่าให้ฟังว่า
ในช่วงแรกที่รับงานนั้นรู้สึกว่าเป็นงานไม่ยาก
และได้รับการดูแลอย่างดีเมื่อถึงจุดหมาย
แต่ทว่าเมื่ออยู่ไปได้ระยะหนึ่ง
จึงตระหนักว่าตัวเองกำลังถูกควบคุมตัว
และพบว่าบริษัทดังกล่าวมีเบื้องหน้าเบื้องหลังกับแก๊งมาเฟีย
หลังจากนั้น
เขายังโดนโกหกว่าจะพากลับหังโจว
แต่ในที่สุดกลับถูกทิ้งให้อยู่ที่สนามบิน
โดยไม่มีสัมภาระใดๆ ติดตัวเลย
ยังดีที่หม่าหยุนยังพอมีโชคอยู่บ้าง
เพราะในกระเป๋ากางเกงของเขา
มีเงินจากการโยกสลอตแมชชีน
ที่ลาสเวกัสอยู่ 600 ดอลลาร์
จึงรีบใช้เงินนี้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปหาเพื่อนที่ซีแอตเติล
และที่นี่เอง ที่หม่าหยุนได้พบกับอินเทอร์เน็ต
ซึ่งเป็นสิ่งที่แผ่นดินใหญ่น้อยคนนักจะรู้จักในตอนนั้น
ผมให้เพื่อนช่วยหาคำว่า ‘ประเทศจีน 中国’
ก็ไม่มีผลอะไรออกมา
ไหนจะคำว่า ‘เบียร์ 啤酒’
ก็มียี่ห้อต่างๆ ของทั้งสหรัฐฯ ของเยอรมนี
แต่ว่าไม่มียี่ห้อของจีน
ผมจึงรับรู้ได้ว่าจะต้องใช้อินเทอร์เน็ต
เป็นเครื่องมือช่วยทำให้แบรนด์ของจีนให้เป็นที่รับรู้ให้ได้”
เมื่อกลับมาถึงหังโจว
หม่าหยุนรีบเชิญเพื่อนๆ มาประชุมที่บ้าน
รวมสมาชิกวันนั้นได้ 24 คน
เขาประกาศในที่ประชุม 2 เรื่อง คือ
1. จะลาออกจากงาน และ
2. จะทำเว็บไซต์
โดยจะเริ่มต้นที่เว็บเยลโล เพจเจสของจีน
ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า
สมาชิกทั้ง 24 คนนั้นก็เห็นดีเห็นงามไปกับเขา
และเดินตามเขามาจนวันนี้เข้าปีที่ 10 แล้ว
ในวันแรกที่ธุรกิจของเขาเริ่มต้น
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด
ก็คือสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้า
รู้ว่าเขาไม่ใช่คนหลอกลวง
ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ตอยู่จริง
หลังจากนั้นในปี 1999
ที่หม่าหยุนมีอายุได้เพียง 34 ปี
เขาก็ได้ก่อตั้งเว็บไซต์อลิบาบาขึ้น
จนบัดนี้เว็บดังกล่าวก็มีอายุได้ 6 ปีแล้ว
นิตยสารฟอร์บส์เชื่อว่า
หม่าหยุนคนนี้มีแผนส่งออกผลิตภัณฑ์
เมดอินไชน่าผ่านเว็บไซต์อลิบาบาไปยังทั่วโลก
ปัจจุบัน อลิบาบาเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชแห่งโลกไซเบอร์
ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างผู้ประกอบการกว่า 7 ล้านแห่งจาก 200 ประเทศ
กับผู้ประกอบการจีนอีก 2 ล้านรายทุกวัน
ร่วมกันดำเนินธุรกิจค้าขายกันบนโลกออนไลน์
จากการประเมินพบว่า
มูลค่าทางตลาดของอลิบาบา
หลังจากร่วมมือกับยาฮูแล้ว
ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,250 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งใกล้เคียงกับยักษ์ใหญ์เว็บไซต์ของจีนอีก 2 ราย
คือ shanda.com กับ netease.com
และเมื่อมีการจัดอันดับเศรษฐีแดนมังกรของหูรุ่นรีพอร์ท
ก็ได้ประเมินให้หม่าหยุน
เป็นผู้ที่มีสินทรัพย์ทั้งสิ้นมากกว่า 4,000 ล้านหยวน
เจรจาธุรกิจ 82 ล้านเหรียญในห้องน้ำ
หม่าหยุนเป็นคนที่มีวาทศิลป์ดี
เขามีความสามารถทำให้คนที่ฟังเขาพูดเห็นดีเห็นงาม
ไปกับเหตุผลที่เขายกขึ้นมาประกอบ
ตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งก็คือ
เมื่อเขาพบกับไช่จงซิ่น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) คนก่อนของอลิบาบา
ที่มาเจรจาในฐานะของตัวแทนบริษัทร่วมลงทุน
แต่ในที่สุดกลับถูกชวนมาทำงานให้กับอลิบาบาแทนหรืออีกครั้ง
เมื่อปี 1999 ที่หม่าเพิ่งประกาศว่า
จะก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และมีน้อยคนนักที่เชื่อในคำพูดนี้
แต่ทว่าต้องยกเว้นมาซาโยชิ ซัน
นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่มีหุ้นใหญ่ในยาฮู
เพราะหม่าหยุนใช้เวลาเพียง 6 นาที
ก็โน้มน้าวให้ซันยินดีลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ
ให้กับอลิบาบาของเขาได้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หม่าหยุน
และทีมพบกับความสำเร็จในวันนี้
นั่นก็คือ พวกเขาเป็นกลุ่มกล้าฝันและทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
นอกจากนั้น ยังเป็นคนรักษาคำพูด
ดังที่ในช่วงปี 2001
ธุรกิจเว็บไซต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหา
ซันถึงกับออกปากกับหม่าว่า
ในบรรดาซีอีโอแต่ละบริษัทที่เขาเจอ
วาจาของแต่ละคนแตกต่าง
จากวันแรกที่เคยเชิญชวนให้ซันไปร่วมลงทุนด้วย
เหลือแต่เพียงหม่าเท่านั้นที่ยังพูดคำไหนคำนั้นเหมือนเดิม
ความเชื่อถือในตัวหม่าที่เกิดขึ้นในยามยากครั้งนั้นของซัน
มีผลต่อเนื่องมาจนถึงปี 2003
ที่หม่าหยุนมีความคิดจะตั้ง
เว็บไซต์ประมูลสิ่งของขึ้นมาแข่งกับอีเบย์
ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่มีคนบอกว่า
ความคิดของเขาเป็นไปไม่ได้
แต่ก็มีมาซาโยชิ ซันคนนี้ที่ยินดีลงเงิน 82 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับหม่า
และไม่น่าเชื่อว่าเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้
เขาสองคนกลับเจรจากันอย่างง่ายๆ ในห้องน้ำ
แล้วความจริงก็พิสูจน์ได้ว่า
เงินลงทุนของเศรษฐีญี่ปุ่นไม่ได้สูญเปล่าเลย
เมื่อหม่าหยุนตั้งเว็บไซต์เถาเป่า (taobao.com)
ให้ขึ้นมาเป็นคู่แข่งของอีเบย์ได้จริง
และสำหรับอลิบาบา ตอนนี้ก็ได้รับการยอมรับ
แล้วว่าเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
รองจากยาฮู อะเมซอน และอีเบย์
หม่าหยุนยังบอกว่า
ในปีนี้ อลิบาบาจะมีสำนักงานย่อย
ในยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ
ซึ่งก็ต้องจ้างพนักงานอีกหลายร้อยอัตรา
แต่อย่างไรก็ตาม
โครงการนี้ยังไม่ใช่โครงการที่ใหญ่ที่สุด
เพราะโครงการที่ต้องให้น้ำหนักมากที่สุดในอนาคต
คือการแสวงหารูปแบบใหม่ของการค้า
เพราะถึงวันนี้แล้ว
การจะเป็น ‘บริษัทที่ยิ่งใหญ่’
ของหม่าหยุนยังคงมีภาพไม่ชัดนัก
“ ตอนนี้เหมือนพวกเรากำลังสร้างตึกขึ้นมา 1 หลัง
วันนี้ติดตั้งก๊อกน้ำ
พรุ่งนี้ติดตั้งชักโครก
เรื่องทุกเรื่องปนเปกันไปหมด
นอกจากนั้นยังแก้ไปแก้มา
ตอนนี้เรามีแค่ภาพโครงร่างคร่าวๆ
ผมคิดว่าปี 2009
ทุกคนคงจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของอลิบาบา”
ในทัศนะของหม่าหยุน
เขามองว่าเมื่อความคิดต่างๆ
เกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซกลายเป็นจริง
เมื่อนั้นอลิบาบาก็จะไม่เป็นเพียงธุรกิจ
ของคนเพียงจำนวนหลักหมื่น
เขายังหวังว่าอีคอมเมิรซ์จะกลายเป็นสิ่งที่สะดวก
เหมือนกับน้ำประปา ‘แค่บิดก๊อกก็ได้ใช้’
ทั้งนี้ หม่าหยุนสรุปชีวิตการทำงานของตัวเองเป็น 3 ช่วง
ในช่วงแรก คือปี 1995
ที่เขายังเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ
ในวิทยาลัยคอมพิวเตอร์เมืองหังโจว
ที่คาดว่าจะมีอนาคตเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาต่างประเทศ
ช่วงที่ 2 คือปี 1995 ถึงปี 1999
หม่าหยุนเริ่มต้นทำเว็บไซต์เยลโล
เพจเจสร่วมกับการสื่อสารเมืองหังโจว
จากนั้นก็ได้ไปแสวงหาลู่ทางในปักกิ่ง
แต่แล้วในคืนหนึ่งของปี 1999
ที่มีหิมะโปรยปราย
เขาและเพื่อนที่ไปด้วยกัน
ก็เดินทางกลับมายังหังโจวด้วยความเศร้า
ช่วงที่ 3 คือ ปี 1999 ถึงปี 2004
หม่าหยุนประสบความสำเร็จในการทำเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ
แบบ Business-to-Business (B2B)
คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง
เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ,
การจำหน่ายสินค้า, การจ่ายเงินออนไลน์
และในอีก 5 ปีข้างหน้า
เมื่อได้ร่วมมือกับยาฮูไชน่าแล้ว
แม้จะมองอนาคตไม่ได้ชัดเจนนัก
แต่หม่าหยุนบอกว่าจะต้องพยายามให้อลิบาบา
เป็นเว็บอีคอมเมิร์ซในฝันให้ได้
แหล่งที่มา Facebook : มั่วหุ้น : การวิเคราะห์หุ้นมั่วๆ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...

-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น