วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

วันเด็กแห่งชาติ งานวันเด็ก ปี 2555

ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
งาน วันเด็กแห่งชาติ จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ตามคำเชิญชวนของ นายวี.เอ็ม. กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ

รัฐบาลได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กำหนดให้มีการฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและ นอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

งานวันเด็กแห่งชาติ จัดขึ้นทุกปีในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมจนถึง พ.ศ. 2506 และใน พ.ศ. 2507 ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้เริ่มจัดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2508 โดยเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงหมดฤดูฝนและเป็นวันหยุดราชการ จนถึงทุกวันนี้

เพลงวันเด็ก


เนื้อเพลงหน้าที่เด็ก (เด็กเอ๋ยเด็กดี)
เด็กเอ๋ยเด็กดี
 ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
 เด็กเอ๋ยเด็กดี
 ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน

หนึ่ง นับถือศาสนา
 สอง รักษาธรรมเนียมมั่น
 สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ เพลงหน้าที่เด็ก (เด็กเอ๋ยเด็กดี) – เพลงวันเด็กแห่งชาติ
 สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน

ห้า ยึดมั่นกตัญญู
 หก เป็นผู้รู้รักการงาน
 เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ
 ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน

แปด รู้จักออมประหยัด
 เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล
 น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ
 ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา

สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์
 รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา
 เด็กสมัยชาติพัฒนา
 จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ

เพลงช้าง


เนื้อเพลง ช้าง ช้าง ช้าง
ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้อง เคยเห็นช้าง รึเปล่า
ช้างมันก้อตัวไม่เบาจมูกยาวๆเรียกว่างวง
มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหูมีตาหางยาว…


กลอนวันเด็ก

กลอนเด็กดี
 เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า
 เด็กเกิดมาบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว
 โลกเสื่อมโทรมแต้มสีราคีคาว
 เด็กต้องก้าวต่อไปทางไกลนัก

โลกสับสนปนเปื้อนเกลื่อนวิปริต
 สิ่งแวดล้อมเป็นพิษติดกับดัก
 โลกเศร้าหมองหม่นใจขาดไร้รัก
 จมในปลักโสมมสังคมทราม

แหล่งที่มา  เว็บไซต์ MTHAI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...