วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

"การออกกำลังกาย" เคล็ดลับทำให้ลูกฉลาดอย่างคาดไม่ถึง

จากงานวิจัยของประเทศเนเธอร์แลนด์ได้มีการเปิดเผยว่า การให้เด็กในวัยเรียนได้ออกกำลังกาย จะช่วยให้ผลการเรียนของเด็กดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่น่าสนใจอีกมากมายในประเทศอเมริกา แคนาดา และแอฟริกาใต้ระบุตรงกันถึงความสำคัญของการออกกำลังกายกับการเรียน งานวิจัย 14 ชิ้นได้ทำการวิจัยกับ เด็กอายุ 6-18 ปีจำนวนตั้งแต่ 50-12,000 คน พบว่าเด็กที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีผลการเรียนดีขึ้น และจากการศึกษาของ California Department of Education (CDE) ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนของพละศึกษากับคะแนนการเรียนรู้วิชาการพบ ว่า เด็กที่เรียนแอโรบิค เล่นยกน้ำหนัก และออกกำลังช่วงบริเวณท้อง ลำตัว และยืดหยุ่นร่างกายเป็นประจำจะทำคะแนนในด้านวิชาการได้ดีเป็น 2 เท่าของเด็กที่ไม่ออกกำลังกาย
      
ครูใหญ่ของโรงเรียนประถม Fouke ในรัฐ Arkansas ของอเมริกากล่าวว่าในขณะที่เด็กได้ออกกำลังกาย อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เด็ก ๆ กล่าวว่าพวกเขาสนุกกับการออกกำลังกายมาก และคุณครูยังแถมท้ายอีกว่าเมื่อเด็ก ๆ มาเข้าชั้นเรียนพวกเขามีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น
      
ดังนั้นหากต้องการให้ลูกเรียนดีขึ้น เราต้องให้ลูกเคลื่อนไหวออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ น่าเสียดายที่มีหลายโรงเรียนไม่ให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายมากนัก และตัดโปรแกรมของพลศึกษาลง ทำให้ผลที่ตามมาคือเด็กเป็นโรคอ้วน หรือโรคหัวใจกันมากขึ้นรวมทั้งมีผลการเรียนที่ตกต่ำลงด้วย
ทำไมการออกกำลังกายช่วยให้การเรียนรู้ทางวิชาการดีขึ้น      
       1. ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกาย ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง
      
       2. ช่วยให้เด็กมีความสนใจและมีจิตใจจดจ่อต่อการเรียนมากขึ้น
      
       3. ช่วยเสริมสร้างคุณค่าในตัวเอง มีอารมณ์แจ่มใส
      
       4. ปรับตัวเข้ากับคนอื่นดีขึ้น มีทักษะทางสังคมมากขึ้นซึ่งส่งผลต่อการเรียน
      
       5. ช่วยให้เลือดและออกซิเจนมีการไหลเวียนไปสู่สมอง จึงทำให้มีสมาธิจดจ่อในการเรียนและมีความจำดีขึ้น และยังทำให้มีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้นเมื่อออกกำลัง
      
       6. จากการศึกษาในผู้สูงอายุพบว่าคนที่ออกลังกายจะมีระบบความจำที่มีประสิทธิภาพมากกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
      
       7. เด็กที่เป็นไฮเปอร์แอคทีฟ หากได้รับโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมในแต่ละวันสามารถช่วยให้เด็กมีสมาธิและมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น โดยการให้เด็กได้ออกกำลังช่วงสั้น ๆ ระหว่างแต่ละคาบเรียน หรือบางครั้งอาจใช้การเรียนรู้ทางวิชาการควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วย
      
       8.ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน ลดความตึงเครียด กระตุ้นเซลล์ให้ทำงานอย่างยืดหยุ่นและสมดุล เพราะการให้สมองทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน คร่ำเคร่งกับการเรียนตลอดเวลาจะทำให้สมองเหนื่อยล้า และยากที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้
      
       9. การให้เด็กเข้าร่วมโปรแกรมการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่หากไม่สามารถทำได้ การให้เด็กได้วิ่งเล่นที่สนามหลังบ้าน ปีนป่ายบ้าง ก็ช่วยให้ลูกได้ขยับเขยื้อนร่างกายไม่แพ้การเข้าร่วมในวิชาพลศึกษา
      
       10. การเล่นกีฬาบางประเภทเด็กอาจไม่ได้รับการออกกำลังกายเท่าที่ควร เช่นกีฬาที่มีการคัดออก หรือเด็กต้องนั่งรอคิวเป็นเวลานานก่อนถึงคิวของตัวเอง เป็นต้น
      
แม้ว่าการให้ลูกออกไป วิ่งรอบสนามสัก 1 รอบ จะไม่ทำให้ทำคะแนนสอบได้ดีขึ้นทันที เพราะโดยปกติแล้วการออกกำลังกายโดยตัวของมันเองไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้น แต่มันช่วยให้สมองตรงส่วนการเรียนรู้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องระลึกอยู่เสมอว่าไม่ใช่เด็กทุกคนที่สามารถวิ่งได้เร็ว หรือเป็นนักกีฬาที่โดดเด่นได้ แต่การออกกำลังกายและการทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวสามารถช่วยให้สมองของลูก ทำงานได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอ

แหล่งที่มา  เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มกราคม 2555 17:13 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...