นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการศึกษาผักพื้นบ้านในปี 2554 กรมอนามัยได้เก็บตัวอย่างผักพื้นบ้าน รวม 45 ชนิด จาก 4 ภาค ประกอบด้วย
- ภาคกลาง 12 ชนิด
- ภาคเหนือ 6 ชนิด
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 ชนิด
- ภาคใต้ 22 ชนิด
พบว่าผักพื้นบ้านของไทยทุกชนิดให้พลังงาน โปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรตน้อยมาก จึงกล่าวได้ว่าผักเหล่านี้กินแล้วไม่ทำให้อ้วน
เครือหมาน้อย |
- หมาน้อยมี 423 มิลลิกรัม
- ผักแพวมี390 มิลลิกรัม
- ยอดสะเดามี 384 มิลลิกรัม
- กระเพราขาวมี 221 มิลลิกรัม
- ใบขี้เหล็กมี 156 มิลลิกรัม
- ใบเหลียงมี 151 มิลลิกรัม
- ยอดมะยมมี 147 มิลลิกรัม
- ผักแส้วมี 142 มิลลิกรัม
- ดอกผักฮ้วนมี 113 มิลลิกรัม และ
- ผักแมะมี 112 มิลลิกรัม
ผักที่มีธาตุเหล็กสูงสุด 5 อันดับแรก
- ใบกระเพราแดงมี 15 มิลลิกรัม
- ผักเม็กมี 12 มิลลิกรัม
- ใบขี้เหล็กมี 6 มิลลิกรัม
- ใบสะเดามี 5 มิลลิกรัม และ
- ผักแพวมี 3 มิลลิกรัม
ยอดมันปู |
ผักที่มีใยอาหารสูง 10 อันดับ
- ยอดมันปู มี16.7 กรัม
- ยอดหมุย มี 14.2 กรัม
- ยอดสะเดา มี 12.2 กรัม
- เนียงรอก มี 11.2 กรัม
- ดอกขี้เหล็ก 9.8 กรัม
- ผักแพว 9.7กรัม
- ยอดมะยม 9.4 กรัม
- ใบเหลียง 8.8 กรัม
- หมากหมก 7.7 กรัม และ
- ผักเม่า มี 7.1 กรัม
ยอดหมุย |
ผักที่มีเบต้าแคโรทีน สูง 10 อันดับ
- ยอดลำปะสีมี 15,157 ไมโครกรัม
- ผักแมะมี 9,102 ไมโครกรัม
- ยอดกะทกรกมี 8,498 ไมโครกรัม
- ใบกระเพราแดงมี7,875 ไมโครกรัม
- ยี่หร่ามี 7,408 ไมโครกรัม
- หมาน้อยมี 6,577 ไมโครกรัม
- ผักเจียงดามี 5,905 ไมโครกรัม
- ยอดมันปูมี 5,646 ไมโครกรัม
- ยอดหมุยมี 5,390 ไมโครกรัม และ
- ผักหวานมี 4,823 ไมโครกรัม
ดอกขี้เหล็ก |
- ดอกขี้เหล็กมี 484มิลลิกรัม
- ดอกผักฮ้วนมี 472 มิลลิกรัม
- ยอดผักฮ้วนมี 351 มิลลิกรัม
- ฝักมะรุมมี 262 มิลลิกรัม
- ยอดสะเดามี 194 มิลลิกรัม
- ผักเจียงดามี 153 มิลลิกรัม
- ดอกสะเดามี 123 มิลลิกรัม
- ผักแพวมี 115 มิลลิกรัม
- ผักหวานมี 107 มิลลิกรัม และ
- ยอดกะทกรกมี 86 มิลลิกรัม
นายแพทย์สมยศกล่าวอีกว่า การนำผักพื้นบ้านประจำถิ่นมาปรุงประกอบอาหาร นับได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ในการสร้างเสริมสุขภาพและรักษาโรคโดยไม่ต้องพึ่งยาและสารเคมี ในแต่ละภาคของประเทศไทยมีผักพื้นบ้านสามารถเลือกรับประทานได้ตลอดปี และประชาชนควรเพิ่มการกินผักพื้นบ้านให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ผักพื้นบ้านให้ลูกหลานรู้จักและบริโภคต่อได้
แหล่งที่มา นสพ.ฐานเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 03 มกราคม 2012 เวลา 13:08 น., นสพ. M2F วันพุธที่ 4 ม.ค. 55 (057)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น